เว็บไซต์ข้อมูลด้านอาหารและสุขภาพ

สรรพคุณขิง ที่คุณควรลอง

สรรพคุณขิง

ขิง (Ginger) มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปเอเชีย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Zingiber officinal Roscoe เป็นพืชล้มลุก มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เปลือกเป็นสีน้ำตาลอมเหลือง เนื้อในเป็นสีนวล มีกลิ่นหอม แทงหน่อหรือลำต้นขึ้นเป็นกอจะถูกหุ้มด้วยใบรอบๆ สูงประมาณ1เมตร ใบเดี่ยว ดอกมีสีขาวแทงขึ้นมาจากเหง้า

ขิงจัดได้ว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาอย่างมากสามารถใช้ได้จากทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นราก ลำต้น ใบ ดอก ผล และเหง้า แต่ที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์มากที่สุดคือเหง้า ในเหง้าของขิงนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการอยู่หลายชนิด อาทิเช่น โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามินเอ วิตามินซี เส้นใยอาหาร ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน ไทอามีน ไนอาซิน ไรโบฟลาวิน รวมไปถึงน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมนุษย์เรารู้จักนำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่ยุคโบราณกาลเลยก็ว่าได้ ขิงถูกใช้ในหลากหลายประเทศทั่วโลก อาทิเช่นประเทศจีน อินเดีย ญี่ปุ่นและประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งแต่ละประเทศนั้นได้มีผลการศึกษาวิจัยสรรพคุณของขิงออกมาในรูปแบบการรักษาโรคต่างๆดังนี้ คือ
1.ประเทศจีนใช้ประโยชน์จากขิงในกรณีที่ร่างกายมีภาวะเป็นหยาง คือ ร่างกายมีอาการเย็น หนาวง่าย,ใช่แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน แก้ปวด ต้านการอักเสบ
2.ประเทศอินเดียจะใช้ประโยชน์จากขิงมาทาถูนวดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด,ใช้ลดอาการอักเสบ อาการปวดของตับ
3.ญี่ปุ่น ได้ผลการวิจัยออกมาว่าขิงมีฤทธิ์ช่วยบำรุงหัวใจ,ลดความดันเลือด และลดคอเลสเตอรอล
4.ประเทศไทย ใช้ขิงเป็นยาขับลม บำรุงธาตุ แก้ไอ และบำรุงน้ำนมของคุณแม่หลังคลอด

สรรพคุณขิง

สรรพคุณและประโยชน์ของขิงนั้นยังมีในด้านอื่นๆอีกคือ

ช่วยลดพุง

การดื่มน้ำขิงอุ่นๆ1แก้ว ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย จะช่วยในเรื่องระบบเผาผลาญของไขมันภายใน ร่างกายให้มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น และยังช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีเพราะด้วยสารจากขิงที่เรียกว่า จินเจอรอลจะเข้าไปช่วยระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายให้มีการทำงานที่ดีทำให้ร่างกายไม่เกิดการสะสมของไขมัน สาเหตุของโรคอ้วน

สูตรน้ำขิงลดพุง

1.นำขิงสดมาบดละเอียดประมาณ1/2ช้อนชา นำมาชงกับน้ำอุ่น1แก้ว (200มิลลิลิตร) หรือนำขิงสด2แง่งมาล้างให้สะอาดโดยไม่ต้องปอกเปลือก หั่นเป็นแว่นๆใส่ลงไปในน้ำเดือด ประมาณ15นาที รินเอาแต่น้ำออกมา

2.เติมน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย ตามด้วยน้ำ ผึ้ง1/2ช้อนชา เพื่อเพิ่มรสชาติและลดความเผ็ดร้อน ทำให้ดื่มได้ง่ายขึ้น

3.นำมาดื่มติดต่อกันในตอนเช้าหลังการตื่นนอนทุกวัน ประมาณ2สัปดาห์ เพียงเท่านี้ น้ำหนักหรือพุงส่วนเกิน ของคุณก็จะลดลงอย่างเห็นผล

สูตรน้ำขิงลดพุง

ช่วยเกี่ยวกับประจำเดือน

เนื่องจากความเผ็ดร้อนของขิง จะช่วยกระตุ้นให้เลือดมีการไหลเวียนที่ดี การดื่มน้ำขิงอุ่นๆในช่วงมีประจำเดือนจะช่วยลดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อที่เกิดจากการปวดท้องประจำเดือน ทำให้อาการปวดนั้นทุเลาลงและแก้อาการจุกเสียด ท้องอืด ท้องเฟ้อ เพราะขิงมีฤทธิ์ร้อนและมีน้ำมันหอมระเหย ที่จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหารให้มีการบีบตัวมากขึ้น ทำให้มีการขับลมออกมาและยังช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยเพียงจิบน้ำขิงอุ่นๆ อาการเหล่านั้นก็จะบรรเทาลง

บรรเทาอาการปวดไมเกรน

เนื่องจากผลวิจัยของแผนกประสาทวิทยาของโรงพยาบาลในประเทศอิหร่าน ได้ศึกษาวิจัยออกมาว่าขิงมีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบและอาการปวดได้ เพราะมีสารไอโคซานอยที่มีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบของหลอดเลือด และอาการปวดในร่างกาย และยังสามารถช่วยลดการสร้างสารพรอสตาแกลนดิน ต้นเหตุของอาการปวดและอักเสบ นอกจากนั้นขิงยังมีสรรพคุณที่ช่วยแก้อาการคลื่นไส้ อาเจียนซึ่งเป็นอาการเริ่มแรกของการปวดไมเกรนอีกด้วย

ช่วยชะลอความแก่

การดื่มน้ำขิงอุ่นๆเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่อยากแก่ก่อนวัยอันควร เพราะในขิงมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินซี โปรตีน และสารเบต้าแคโรทีน เป็นต้น ซึ่งเป็นสารที่มีสรรพคุณช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆภายในร่างกาย และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ดี

ช่วยบำรุงสายตา

ด้วยสารเบต้าแคโรทีนในขิงเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อดวงตาของเรา สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก และความเสื่อมของเซลล์ลูกตา ทำให้มีการมองเห็นในที่มืดที่ดีขึ้นด้วย

ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

การดื่มน้ำขิงหรือรับประทานขิงสดๆจะช่วยกระตุ้นการทำงานของอินซูลินในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายสามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้มากกว่าปกติ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง

ช่วยใหร่างกายมีการตื่นตัวมากขึ้น

นอกจากการดื่มน้ำขิงอุ่นๆก่อนนอนจะทำให้รู้สึกหลับสบายแล้ว การดื่มน้ำขิงตอนตื่นนอนก่อนอาหารมื้อเช้า ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะในร่างกายให้มีการตื่นตัวได้ดีอีกด้วย เพราะตอนตื่นนอนใหม่ๆนั้นร่างกายจะมีอุณหภูมิต่ำที่สุด ด้วยรสชาติที่เผ็ดร้อนของขิงจะมีฤทธิ์เข้าไปเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายให้สูงขึ้นและทำให้เลือดมีการไหลเวียนที่ดี

ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคอัลไซเมอร์

ด้วยผลการศึกษาและทดลองของผู้เชียวชาญด้านสุขภาพของออสเตรเลียKathleen McFarlane พบว่าหญิงสูงอายุในช่วง50-60ปีที่รับประทานขิงเป็นประจำจะช่วยให้สมองดีขึ้น เนื่องจากสารจินเจอรอล และน้ำมันหอมระเหยที่มีอยู่ในขิง คือ ซิงจิเบอรีน ซิงจิเบอรอล ไปซาโบลี และแคมฟีน จะช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดในสมองและระบบป้องกันเซลล์ประสาททำงานได้ดี ช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ประสาทและสมอง ทำให้สมองผ่อนคลาย มีสมาธิ ช่วยให้ความจำและความคิดดีขึ้น จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ของขิง

ช่วยต้านโรคมะเร็งต่างๆ

ในขิงมีสารอาหารหลายชนิดที่ช่วยทำหน้าที่ปกป้องร่างกายของเราให้ห่างจากโรคมะเร็งได้ เช่นสารเบต้าแคโรทีน ช่วยทำหน้าที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยป้องกันและต่อต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง,สารจินเจอรอล ช่วยลดการดูดซึมของ LDL Cholesterol ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่, สารโชกาออลและสารซิงเจอโรน ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งอื่นๆ เช่นมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม เป็นต้น

ช่วยแก้อาการอาเจียนจากการแพ้ท้อง

ในหญิงตั้งครรภ์ช่วง20สัปดาห์ การรับประทานขิง1กรัม 4ครั้ง ต่อวันจะช่วยแก้อาการแพ้ท้องได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากในขิงมีสาร จินเจอรอล ในการออกฤทธิ์แก้อาการอาเจียน

แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ขิงจะมีประโยชน์และมีสรรพคุณที่ใช้ในการรักษาโรคมากเพียงใด หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจก่อให้เกิดผลร้ายต่อร่างกายของเราได้เช่นกัน เช่น

1.ขิงมีรสชาติเผ็ดร้อน หากรับประทานมากเกินอาจจะไปทำลายเยื่อบุในปากจนเกิดการอักเสบและเป็นแผลขึ้นได้

2.การศึกษาหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย พบว่าขิงมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด จึงห้ามไม่ให้รับประทานขิงขณะใช้ยาสลายลิ่มเลือด เพราะอาจทำให้เกิดอาการห้อเลือดหรืออาการเลือดออกผิดปกติ

ขอบคุณข้อมูลจาก Doctor.or.th, health.kapook, chillnaid, medthai, mgronline, disthai

About Our Content Creators

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Integer semper commodo tristique. Donec in dolor a odio semper convallis et ac ex. Aenean at elit non arcu tincidunt laoreet.

We may earn a commission if you click on the links within this article. Learn more.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

More…!